บริษัทลิสซิ่งกับการตั้งกฏเกณฑ์อันแปลกประหลาด ของวงการจำนอง ขายฝาก

การทำธุรกิจที่ไม่เอื้อให้เจ้าของทรัพย์ไถ่ถอน

post date  โพสต์เมื่อ 6 ต.ค. 2567   view 10
article

Credit by.Saksith Chaychuwong

.

อยู่ในวงการ อสังหาริมทรัพย์ มาหลายปี ปกติจะรับงาน ขายฝากเป็นหลัก ส่งงานให้ทุนโดยตรง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ช่วงนี้ ทั้งคนติดทุนหรือแม้แต่นายทุนเอง ไม่มีงานให้ทำ เพราะอะไรหรือ

ทรัพย์ถูกนายทุนยึดหมดแล้ว ไม่น่าใช่

คนไม่รู้จะเอาเงินไปลงทุนอะไร ก็ไม่เชิง

อะไรคือ สาเหตุ?

สาเหตุหลัก: น่าจะมี บริษัทลิสซิ่ง ขึ้นเป็นดอกเห็ด หลายบริษัท ทั่วทุกถนน ลูกค้าเลยเดินเข้าไป ลิสซิ่งพวกนี้หมด งานเลยตัดตอนนายหน้าออกหมด ถึงขั้นทำหมันเลย

แต่เนื้อใน อยากให้ทราบไว้นิด คือ เมื่อลูกค้าอยากได้เงิน จะไม่ถามขั้นตอน การไถ่ถอน

ตอนไถ่ถอน ถ้าลูกค้ามีเงินสดมาไถ่ถอนเอง คงไม่มีปัญหา คือจ่ายเงินปิดบัญชีที่บริษัทฯเอง รอขั้นตอนการโอนลอยจากบริษัทฯ ลิสซิ่ง 5-14 วัน ค่อยไปรับโฉนดและชุดโอนลอยมาจาก บริษัทฯ ลิสซิ่ง แล้วมาโอนเองที่กรมที่ดิน แต่ถ้าลูกค้าไม่มีเงินสดเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน จะเกิดปัญหาใหญ่สำหรับลูกค้าขึ้นทันที คือ

ใครจะเป็นคนจ่ายเพื่อปิดบัญชี?

ลูกค้าก็ต้องหาทุนใหม่มาเพื่อมารับช่วงต่อ!!!

ในวงการ ลักษณะแบบนี้เขาเรียกว่า การเปลี่ยนมือ(เปลี่ยนนายทุนใหม่) กล่าวคือ เมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ถ้าลูกค้าไม่มีเงินไถ่ถอน ลูกค้าจะหาทุนใหม่มารับไว้ก่อน เพื่อยืดเวลาออกไป แต่มูลหนี้ก็ต้องเพิ่มขึ้นในกรณีที่ทรัพย์ ยังมีมูลค่ามากพอ

ธรรมเนียมที่ปฎิบัติกันมา คือ เมื่อลูกค้าจะเปลี่ยนมือ ทุนใหม่จะส่งสำเนาแคชเชียร์ ตามยอดไถ่ถอน ส่งให้ทุนเก่า ทุนเก่าก็จะอุ้มโฉนดมาที่กรมที่ดิน จดนิติกรรมและเปลี่ยนสารบบกันใหม่

แต่มีลิสซิ่งชั้นนำในเมืองไทย เอาเปรียบผู้บริโภค กล่าวคือ เมื่อครบกำหนด ลูกค้าจะไถ่ถอน ลูกค้าจะต้องเอาเงินสดไปจ่ายที่ สำนักงาน แล้วสำนักงานจะทำชุดโอนลอย ให้ลูกค้าไปทำนิติกรรมที่กรมที่ดินเอง หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ราว 7-14 วัน

ดูก็ไม่น่ามีปัญหา สำหรับคนนอกวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่คนในวงการนี้จะรู้ นั้นคือ

ใครจะเป็นคนจ่ายเงินเพื่อปิดบัญชีให้ลูกค้าก่อน

ทุนใหม่!!! ไม่จ่ายหรอกครับ จ่ายเงินปิดบัญชี แล้วแต่ไม่ได้รับโฉนดเพื่อไปเปลี่ยนสารบบแล้วใครจะกล้าจ่าย

คนโชคร้ายคือเจ้าของที่เป็นผู้บริโภค ครับตอนเอาเข้าไม่ถามถึงขั้นตอนการไถ่ถอน!!!

วิธีการแก้ไข คือ ลูกค้าจะต้องหาทุนบุคคลมา " ตัดโฉนด" จากบริษัทฯลิสซิ่งเหล่านี้ มีค่าใช้จ่าย 5-10% ของยอดที่ปิดบัญชี เมื่อได้โฉนดและชุดโอนลอยมา ลูกค้าก็จะต้องจ่ายค่าปากถุงกับทุนใหม่อีก 5-8%

ที่อธิบายมาเพื่อให้เพื่อนๆนายหน้ารู้ว่า ถ้าจะจดจำนองหรือจดขายฝากกับใคร ควรจะถามถึงขั้นตอนการไถ่ถอนด้วย ถ้าทุนหรือบริษัทฯลิสซิ่งเหล่านั้น ไม่เอาโฉนดออกมายื่นหมูยื่นแม่กันที่กรมที่ดิน ถ้าหลีกเลี่ยงได้

ควรหลีกเลี่ยงครับ!!!!

นี้คือปัญหา ที่เจอ สำหรับลูกค้าที่เดินเข้าไปหาบริษัทลิสซิ่งเหล่านี้ จึงอยากแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง ตอนกู้เงิน ไม่ยาก ท่านควรถามเขา ตอนไถ่ถอนด้วย เผื่อในกรณีที่ครบกำหนดสัญญาแล้ว ท่านไม่มีเงินสดไปไถ่ถอน

เท่าที่รู้ บริษัทลิสซิ่ง แปลกประหลาดแบบนี้ มีหลายแห่งในประเทศไทย เป็นพวกซาตานตึกแถว ส่วนบริษัทลิสซิ่งอื่น และทุน non bank เขาปฏิบัติเหมือนกันหมด คือถ้าลูกค้าจะไถ่ถอน หรือเปลื่ยนทุนใหม่ เขาจะเอาโฉนดไปทำนิติกรรมที่กรมที่ดิน เหมือนกันหมด

แล้วไอ้ บริษัทฯลิสซิ่ง แปลกประหลาดพวกนี้ มันใหญ่โตหรือไง ถึงได้ออกกฎ บ้า บอ คอ แตก แบบนี้มา!!!!!!

การทำธุรกิจ อะไรก็ตาม ต้อง วินๆทุกๆ ฝ่าย จริงไหม?????

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)